ถาม-ตอบ

FAQ Madi Kombucha Thai

  • Kombucha คืออะไร
         คอมบูชะหรือชาหมัก เป็นเครื่องดื่มที่มีกำเนิดในประเทศจีนมานานกว่า 2000 ปี ผลิตจากกระบวนการหมักน้ำชาที่เติมน้าตาลโดยใช้จุลินทรีย์ที่ดีที่เป็นโปรไบโอติกส์ทาให้เกิดสารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหลายชนิด เช่น กรดอะซีติก กรดแลกติก กรดกลูโคนิก กรดกลูคูโรนิก และสารดีเอสแอล กรดเหล่านี้ทาให้คอมบูชะเป็นเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน

         คอมบูชะยังมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูงซึ่งช่วยทำลายพิษของอนุมูลอิสระที่ร่างกายได้รับเป็นประจำทุกๆวัน นอกจากนี้ข้อมูลงานวิจัยยังบ่งชี้ว่ามีการตรวจพบสารต้านจุลชีพและสารต้านเซลล์มะเร็งบางชนิดในคอมบูชะ
  • ต่างจากน้ำหมักของป้าเช็งอย่างไร
         น้ำหมักของป้าเช็งใช้ผักและผลไม้ชนิดต่างๆในการหมัก ไม่มีการเติมหัวเชื้อเริ่มต้นสาหรับใช้ในการหมัก เชื้อต่างๆจะเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการหมัก สาหรับคอมบูชะหรือชาหมัก ใช้น้ำชา น้าตาลและมีการเติมกลุ่มของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์เพื่อเริ่มต้นกระบวนการหมัก ทาให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพคงที่ ประกอบด้วยกรดอินทรีย์ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • คนเป็นเบาหวานทานได้ไหม
         ผู้ป่วยเบาหวานแต่ละรายมีความสามารถในการใช้น้ำตาลในระดับที่แตกต่างกันดังนั้นผู้ที่เป็นเบาหวานแต่ละราย ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสมกับตนเอง ไม่ดื่มในปริมาณที่สูงเกินไปจนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ โดยการตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดให้สม่ำเสมอ
         อนึ่งมีงานวิจัยในสัตว์ทดลอง พบว่าคอมบูชะมีผลในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับอ่อนที่ถูกทาลายในผู้ป่วยเบาหวาน ดังนั้นการดื่มคอมบูชะในปริมาณที่เหมาะสมในผู้ป่วยเบาหวาน จึงไม่น่าเกิดผลเสีย และอาจมีส่วนช่วยฟื้นฟูตับอ่อนซึ่งทำหน้าที่ผลิตอินซูลินให้กับร่างกาย
  • ทำไมราคาสูงกว่าชาทั่วไป
         เพราะว่าไม่ใช่ชาธรรมดา แต่เป็นชาหมัก และหมักด้วยวิธีเฉพาะ เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบชา คัดสรร เอาเฉพาะชาคุณภาพที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง รสชาติชั้นดี สายพันธุ์ที่ใช้ผ่านกรรมวิธีการทำชาแห้งอย่างพิถีพิถัน ในขบวนการหมักมีการคัดเลือกเชื้อกลุ่มโปรไบโอติกส์ ในสัดส่วนที่เหมาะสม มีกรรมวิธีการผลิตที่สะอาดปลอดภัย ด้วยความเชี่ยวชาญจากภูมิปัญญาที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ ในเรื่องการเบลนผสมผสานชาหมักแต่ละช่วงเวลา และผสมผสานคละเคล้าหลากหลายสายพันธุ์เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีและสม่ำเสมอ และด้วยเทคนิคพิเศษนี้ทำให้มีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นระหว่างกระบวนการหมัก และยังเกิดกรดอินทรีย์ธรรมชาติและสารสำคัญอื่นๆอีกมากมาย
         กลุ่มเชื้อโปรไบโอติกส์ที่ใช้ในกระบวนการหมักประกอบด้วย กลุ่มยีสต์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมไวน์ กลุ่มแบคทีเรียแลกติกที่พบในน้ำหมักผลไม้ต่างๆและกลุ่มแบคทีเรียอะซิติกที่ใช้ในการทำวินีก้า เช่น แอปเปิ้ลไซเดอร์ และน้ำส้มสายชูจากข้าวเป็นต้น ดังนั้นการดื่มชาหมักจึงเหมือนกับการได้รับสารต่างๆที่มีทั้งในไวน์ น้าหมัก และน้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติ แต่ไม่มีแอลกอฮอล์ ชาหมักเปรียบเสมือนเครื่องดื่มที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ดั่งที่ท่านจะเห็นว่าไวน์ขวดละ100 ก็มี ขวดละแสนก็มี ชากิโลกรัมละ 100 ก็มี กิโลกรัมละหมื่น แสน ล้าน ก็มี
         สิ่งเหล่านี้เป็นคำอธิบายที่โยงความเป็นวิทยาศาสตร์และศิลปะให้เข้าใจพอสังเขป แต่หากจะเปรียบราคาชาหมักในประเทศไทยกับต่างประเทศแล้ว นับว่าราคาในบ้านเรายังถูกกว่าต่างประเทศมาก แต่หากจะเปรียบราคาชาหมักกับน้ำหมักสมุนไพร ราคาชาหมักก็ไม่ได้แพงกว่า หากเปรียบกับวินีก้าพร้อมดื่ม ราคาชาหมักก็ไม่นับว่าแพงกว่าแต่อย่างไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่คุณภาพและความพอใจ เราพยายามอย่างยิ่งที่จะนำเสนอราคาที่ผู้บริโภคพอใจ มั่นใจได้ว่าคุณภาพคับขวด
         ผู้บริโภคปัจจุบันฉลาดในการเลือกซื้อ เราเคารพในความช่างเลือก เราจึงนำเสนอราคาที่คุ้มกับการจับจ่ายเงินของผู้บริโภค เรามีความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิต ตั้งแต่การใช้วัตถุภายในประเทศ การมีไร่ชาเป็นของตนเอง การมีภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ การได้รับการส่งเสริมงานวิจัยจากภาครัฐ และการได้รับการร่วมมือจากมหาวิทยาลัยหลากหลายสถาบันและหลากหลายคณะและภาควิชา ไม่ว่าจะเป็นเภสัช-ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น
  • แตกต่างอย่างไรกับชาที่หมักเอง
         ชาหมักที่หมักเองอาจมีรสชาติไม่สม่ำเสมอ หากระยะเวลาการหมักไม่เหมาะสม อาจทำให้ความเปรี้ยวน้อยไปหรือเปรี้ยวมากไป บางครั้งอาจมีแอลกฮอลล์ในปริมาณสูง หรืออาจมีจุลินทรีย์ชนิดอื่นปนเปื้อน ชาหมักที่ผลิตจำหน่ายจะมีการควบคุมคุณภาพวัตถุดิบและจุลินทรีย์ที่ใช้ในการผลิต ระยะเวลาการหมักที่เหมาะสม ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพคงที่และรสชาติสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบปริมาณแอลกฮอลล์ไม่ให้เกินมาตรฐานเครื่องดื่ม คือ ไม่เกินร้อยละ 0.5 มีการตรวจสอบสารที่เป็นพิษ คือ เมธิลแอลกฮอลล์ และโลหะหนัก ซึ่งไม่พบในผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่าย
  • มีแอลกอฮอลล์ไหม คิดว่าเป็นไวน์
         คอมบูชะเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์ หรืออาจมีในปริมาณต่ำมากไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด คือ ไม่เกิน 0.5 เปอร์เซ็นต์ รสชาติของคอมบูชะอาจมีส่วนคล้ายไวน์ เนื่องจากในกระบวนการหมักอาจเกิดสารบางชนิดที่ให้รสชาติคล้ายไวน์ สารเหล่านี้ไม่ใช่แอลกอฮอลล์
  • ทานแล้วช่วยอะไร เห็นผลไหม ต้องทานนานแค่ไหน
         คอมบูชะเป็นเครื่องดื่มที่มีกรดอินทรีย์ ไวตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์หลายชนิด จึงเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นและช่วยฟื้นฟูร่างกาย แพทย์ทางเลือกทั้งในประเทศจีนและยุโรปตะวันออกใช้ฟื้นฟูสภาพร่างกายของผู้ป่วยจากโรคต่างๆ
         ปัจจุบันมีงานวิจัยและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากมาย ที่บ่งชี้คุณประโยชน์ของคอมบูชะต่อสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องกับคาบอกเล่าของผู้ที่ดื่มคอมบูชะเป็นประจำ เช่น ช่วยระบบขับถ่าย บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ช่วยการนอนหลับ ลดโคเลสเตอรอล ความดันโลหิต การอักเสบ ไมเกรน ช่วยการทางานของตับและขับสารพิษ เป็นต้น

    ประโยชน์ของกรดอินทรีย์ที่พบในคอมบูชะ มีดังนี้
    1. กรดอะซีติก (acetic acid) ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียก่อโรคบางชนิดและถนอมอาหาร
    2. กรดแลคติก (lactic acid) ช่วยในการย่อยอาหาร
    3.กรดมาลิก (malic acid) ช่วยในกระบวนการล้างพิษ
    4. กรดออกซาลิก (oxalic acid) ส่งเสริมการผลิตพลังงานของเซลล์และถนอมอาหาร
    5. กรดกลูโคนิก (gluconic acid) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
    6. กรดบิวทิริก (butyric acid) ลดอาการอักเสบ
    7. กรดนิวคลีอิก (nucleic acid) ซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์
    8. กรดอะมิโน (amino acid) ซ่อมแซมเนื้อเยื่อและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
    9. กรดโฟลิก (folic acid) สร้างเม็ดเลือดแดงและควบคุมการทำงานของสมอง
    10.กรดกลูคูโรนิก (glucuronic acid) ล้างพิษตับ

        ในคอมบูชะยังมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น โพลีฟีนอลรวมทั้งทีเฟลวินและทีรูบิกิน ซึ่งพบในปริมาณที่สูงกว่าในน้ำชา ปริมาณโพลีฟีนอลที่สูงทาให้การต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น จึงช่วยปกป้องร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังตรวจพบสารต้านจุลชีพก่อโรคและต้านการเจริญของเซลมะเร็งบางชนิด
         แต่ละบุคคลมีปัญหาสุขภาพที่มีความรุนแรงแตกต่างกัน ดังนั้นอาจใช้ระยะเวลาที่ต่างกันในการดื่มคอมบูชะจึงจะเห็นผลให้สุขภาพดีขึ้น สำหรับคนมีปัญหาในเรื่องระบบขับถ่าย หลังจากดื่มคอมบูชะไม่นาน สามารถทำให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ผู้ที่ตรวจพบค่าการทำงานของตับเกินค่ามาตรฐาน การดื่มคอมบูชะอย่างสม่ำเสมอ สามารถค่อยๆลดค่าการทำงานของตับจนใกล้เคียงค่าปกติ ซึ่งอาจใช้เวลาหลายเดือน
  • ทานแล้วเมาไหม
         คอมบูชะไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์หรืออาจมีแอลกอฮอลล์ไม่เกิน0.5เปอร์เซ็นต์ปริมาณแอลกอฮอลล์ระดับนี้ไม่สามารถทำให้เกิดอาการมึนเมาได้ และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แม้แต่ในน้ำผลไม้ ขนมปัง หรือซาลาเปา ก็อาจมีแอลกอฮอลล์ในปริมาณเท่านี้ได้เช่นกัน
  • มีคาเฟอีนหรือเปล่า
         น้ำชาซึ่งใช้ในการหมักคอมบูชะมีคาเฟอีนประมาณ 12.4 - 41.6 มิลลิกรัม ต่อ100 มิลลิลิตร ซึ่งต่ำกว่าในกาแฟซึ่งมีคาเฟอีนประมาณ 38.6 – 65.2 มิลลิกรัม ต่อ100 มิลลิลิตร
  • ต้องทานตอนไหนบ้าง
         ควรทานก่อนหรือหลังอาหารประมาณครึ่งชั่วโมงโดยแบ่งทานครั้งละ 100-150 มล.วันละ 2-3 เวลา หรือทานเมื่อรู้สึกมีอาการอ่อนเพลีย
  • เด็กทานได้ไหม ทุกเพศทุกวัยหรือเปล่า
         คอมบูชะเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์ แต่มีกรดอินทรีย์ ไวตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์หลายชนิดจึงเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นและช่วยฟื้นฟูร่างกายนอกจากนี้กรดกลูคูโรนิกที่มีในคอมบูชะยังช่วยส่งเสริมการทำงานของตับในการกำจัดสารพิษต่างๆออกจากร่างกาย ดังนั้นคอมบูชะจึงเป็นประโยชน์กับทุกเพศทุกวัย ทุกคนสามารถดื่มได้อย่างปลอดภัย
         สำหรับน้าชาซึ่งในการผลิตคอมบูชะมีคาเฟอีนประมาณ 12.4 - 41.6 มิลลิกรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร ซึ่งต่ำกว่าในกาแฟซึ่งมีคาเฟอีนประมาณ 38.6 – 65.2 มิลลิกรัม ต่อ100 มิลลิลิตร ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่บ่งชี้ถึงอันตรายของคาเฟอีนในปริมาณที่เหมาะสมต่อสุขภาพ ดังนั้นการดื่มคอมบูชะในปริมาณที่แนะนำ คือ ครั้งละ 100 มล. วันละ 3 เวลา ก็จะได้รับคาเฟอีนรวมแล้วไม่ถึง 200 มิลลิกรัม ซึ่งน้อยกว่าที่ได้รับจากการดื่มกาแฟ 2 แก้ว
  • ทำไมถึงสกัดแอลกอฮอลล์ได้
         การที่คอมบูชะเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์ เป็นผลมาจากการควบคุมกระบวนการหมัก ให้อยู่ในช่วงเวลาที่แอลกอฮอลล์ถูกเปลี่ยนเป็นกรดอะซีติกหรือกรดน้ำส้มซึ่งทำให้เหลือปริมาณแอลกอฮอลล์ต่ำมากหรืออาจไม่มีเหลืออยู่ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องสกัดเอาแอลกอฮอลล์ออกแต่อย่างไร
  • เป็นเชื้อชนิดไหน
         เชื้อที่ใช้ในการผลิตชาหมักเป็นจุลชีพกลุ่มที่ดีที่เป็นโปรไปโอติกส์ ประกอบด้วยจุลชีพหลายชนิดอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน ซึ่งประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ กลุ่มยีสต์ และแบคทีเรียอะซิติก จุลชีพกลุ่มยีสต์ประกอบด้วยยีสต์หลากหลายชนิดหน้าที่ย่อยน้ำตาลและเปลี่ยนให้เป็น แอลกอฮอลล์ ซึ่งเกิดในช่วงต้นของกระบวนการหมัก จุลชีพกลุ่มแบคทีเรียอะซีติก ประกอบด้วยแบคทีเรียหลายชนิดที่ผลิตกรดอะซิติกและกรดอินทรีย์ต่างๆหลายชนิด โดยเปลี่ยนแอลกอฮอลล์และน้ำตาลให้เป็นกรดอินทรีย์ชนิดต่างๆ
         การทางานร่วมกันของจุลชีพทั้งสองกลุ่ม ทำให้ได้น้ำชาหมักหรือคอมบูชะที่มีรสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย และมีแอลกอฮอลล์ในระดับต่ำ นอกจากนี้ยังอาจพบแบคทีเรียแลกติกในกระบวนการหมัก
  • ชาวินเทอร์กับชาซัมมเมอร์ต่างกันอย่างไร
         ชาวินเทอร์ใช้ชาอูหลงฤดูหนาวในการเบลน เพื่อกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นคอชา และชื่นชอบไวน์ ชาซัมเมอร์ใช้ชาอัสสัมฤดูร้อนหรือเมี่ยงหัวปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชาสายพันธุ์อัสสัม เพื่อผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับการดื่มน้ำหมักและผู้ที่ชื่นชอบน้ำผลไม้
  • คนท้องทานได้ไหม
         คอมบูชะเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์ แต่มีกรดอินทรีย์ ไวตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์หลายชนิด จึงเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นและช่วยฟื้นฟูร่างกาย นอกจากนี้กรดกลูคูโรนิกที่มีในคอมบูชะยังช่วยส่งเสริมการทางานของตับในการกาจัดสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย ดังนั้นคอมบูชะจึงเป็นประโยชน์กับหญิงตั้งครรภ์ คนท้องหรือหญิงตั้งครรภ์จึงสามารถดื่มได้ตามปกติ
         สำหรับน้ำชาซึ่งในการผลิตคอมบูชะมีคาเฟอีนประมาณ 12.4 - 41.6 มิลลิกรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร ซึ่งต่ำกว่าในกาแฟซึ่งมีคาเฟอีนประมาณ 38.6 – 65.2 มิลลิกรัม ต่อ100 มิลลิลิตร ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่บ่งชี้ถึงอันตรายของคาเฟอีนต่อหญิงตั้งครรภ์หรือทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตามในวงการแพทย์แนะนำว่า หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรบริโภคคาเฟอีนเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้นการดื่มคอมบูชะในปริมาณที่แนะนำ คือ ครั้งละ 100 มล. วันละ 3 เวลา ก็จะได้รับคาเฟอีนรวมแล้วไม่เกินที่แพทย์แนะนำ
  • คนเป็นโรค เช่น ตัดถุงน้าดี เบาหวาน ไต ความดัน เป็นต้น สามารถทานได้ไหม
         ถุงน้ำดีทำหน้าที่เก็บน้ำดีที่ผลิตจากตับ ซึ่งน้ำดีทำหน้าที่ย่อยไขมัน คนที่ถูกตัดถุงน้ำดี อาจมีปัญหาในการย่อยอาหารที่มีไขมัน ในคอมบูชะไม่มีสารอาหารประเภทไขมัน จึงไม่น่าจะสร้างปัญหาสุขภาพในผู้ที่ที่ถูกตัดถุงน้ำดี ผู้ป่วยเบาหวานแต่ละรายมีความสามารถในการใช้น้าตาลในระดับที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ที่เป็นเบาหวานแต่ละราย ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสมกับตนเอง ไม่ดื่มในปริมาณที่สูงเกินไปจนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ โดยการตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดให้สม่ำเสมอ อนึ่งมีงานวิจัยในสัตว์ทดลอง พบว่าคอมบูชะมีผลในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับอ่อนที่ถูกทำลายในผู้ป่วยเบาหวาน ดังนั้นการดื่มคอมบูชะในปริมาณที่เหมาะสมในผู้ป่วยเบาหวาน จึงไม่น่าเกิดผลเสีย และอาจมีส่วนช่วยฟื้นฟูตับอ่อนซึ่งทำหน้าที่ผลิตอินซูลินให้กับร่างกาย
         ผู้ป่วยโรคไตที่ยังไม่มีอาการรุนแรงสามารถดื่มคอมบูชะได้ เพราะในคอมบูชะไม่มีเกลือแร่ในปริมาณสูง โดยเฉพาะโซเดียม ควรแบ่งรับประทานครั้งละเล็กน้อย เช่น 50-100 มล. วันละ 2-3 เวลา ซึ่งมีงานวิจัยในสัตว์ทดลอง พบว่าคอมบูชะมีผลในการฟื้นฟูการทางานของไต
         สำหรับผู้ที่มีปัญหาความดันสูงสามารถรับประทานคอมบูชะได้ตามปกติ คอมบูชะอาจมีส่วนช่วยลดความดัน มีงานวิจัยที่สนับสนุนว่าคอมบูชะช่วยลดไขมันและความดันในสัตว์ทดลองรวมทั้งจากคำบอกเล่าของผู้ที่ดื่มคอมบูชะเป็นประจำ
  • ทานแล้วขับสารพิษในตับจริง ค่าตับที่ดีขึ้นคืออะไร ช่วยอธิบายอย่างละเอียด
         หน้าที่ของตับประการหนึ่งคือการกำจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย สารพิษที่เข้าสู่ร่างกายจะเข้าสู่ตับ และถูกกำจัดออกนอกร่างกายด้วยกระบวนการที่เรียกว่า กลูคูโรนิเดชั่น (glucuronidation) โดยสารพิษจะรวมตัวกับกรดกลูคูโรนิก เกิดเป็นสารประกอบเชิงซ้อนกลูคูโรไนด์ (glucuronide complex) สารประกอบที่เกิดขึ้นมีความเป็นพิษน้อยลงหรือหมดความเป็นพิษ ซึ่งผ่านออกจากตับทางท่อน้ำดี เข้าสู่ลำไส้ใหญ่และกำจัดทิ้งทางอุจจาระ
         ดังนั้นการที่ร่างกายได้รับอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีกรดกลูคูโรนิก จึงช่วยส่งเสริมการทำงานของตับในการกำจัดสารก่อมะเร็งและสารพิษต่างๆออกจากร่างกาย ค่าที่สามารถใช้บ่งชี้การทางานของตับ คือ ค่าเอ็นไซม์ AST (Aspartate transaminase) และ ALT (Alanine transaminase) ซึ่งคณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช กำหนดค่า AST อยู่ระหว่าง 0-40 U/L และ ALT อยู่ระหว่าง 0-41 U/L หากค่าที่ตรวจวัดสูงเกินค่ามาตรฐาน ก็เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเนื้อเยื่อตับได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจเกิดจากการรับสารพิษจากมลภาวะ ยา หรือไวรัสตับอักเสบ สารพิษเหล่านี้ถ้าร่างกายได้รับเป็นประจำหรือได้รับในปริมาณสูงจนเกินขีดความสามารถที่ตับจะกำจัดทิ้งได้หมด ก็จะทำให้เนื่อเยื้อตับเกิดความเสียหาย กรดกลูคูโรนิกซึ่งมีในคอมบูชะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดสารพิษของตับ จึงช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับเนื้อเยื้อตับ นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระที่มีในคอมบูชะ ยังช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดจากสารพิษเหล่านี้ จึงช่วยป้องกันและฟื้นฟูตับให้เป็นปกติ (ในกรณีที่ตับยังไม่ได้รับความเสียหายมาก) บางคนที่มีค่าตับทั้งสองค่าสูงเกินค่ามาตรฐาน หลังจากดื่มคอมบูชะเป็นเวลาหลายเดือน สามารถช่วยลดค่าตับลงได้
  • คอมบูชาสามารถเป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้ป่วยในระยะพักฟื้นได้หรือไม่
         การเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ และยาที่ใช้ในการรักษา ทำให้เกิดอนุมูลอิสระขึ้นในร่างกายมากมาย ซึ่งอนุมูลอิสระเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทาอันตรายกับเซลล์ เนื้อเยื้อ และอวัยวะต่างๆในร่างกาย เครื่องดื่มคอมบูชามีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยทำลายอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นเหล่านี้ในร่างกายของผู้ป่วย จึงมีผลช่วยฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยให้หายดีขึ้น ในคอมบูชายังมีกรดกลูคูโรนิค (glucuronic acid) ซึ่งช่วยในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้ด้วย

    ข้อมูลจาก

    อ.ฉัตรชัย กิติพรชัย คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    รศ.ดร.ภญ.พาณี ศิริสะอาด คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    ศ.ดร.สายสมร ลำยอง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    รศ.ดร.สุรพล นธการกิจกุล คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

FAQ One Star Tea Thai

  • ชาขาวสมุนไพร “One Star” ดื่มเพื่ออะไร
         ชาขาวผสมสมุนไพร ส่วนผสมต่างๆ ได้ออกแบบมาช่วยในการฟื้นฟูสุขภาพสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือดสูงได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ชาขาวผสมสมุนไพรมีส่วนช่วยในการลดระดับนํ้าตาลในเลือด ชำระล้างหลอดเลือด ไขมัน ของเสียต่างๆ ลดไตรกลีเซอร์ไล ลดคอเลสเตอรอล อีกทั้งช่วยปรับสมดุลบำรุงฟื้นฟูสุขภาพโดยรวมได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ดูแลสุขภาพทั่วไปอีกด้วย
  • นอกจากเบาหวานแล้ว ชาขาวสมุนไพร “One Star” ช่วยโรคอะไรได้บ้าง
         ชาขาวสมุนไพร “One Star” ของเราไม่มีสรรพคุณในการรักษาโรคค่ะ แต่จะช่วยปรับสมดุลในร่างกายให้เป็นดีขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย บางคนจะถูกกับสมุนไพรมากก็จะเห็นผลอย่างชัดเจน และถ้ามีการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายที่เหมาะสม และดื่มชาขาวควบคู่อย่างสมํ่าเสมอจะช่วยสุขภาพโดยรวมดีขึ้นได้มาก
         โรคหัวใจ
    ชาขาวสมุนไพร “One Star” มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้ เพราะสามารถลดไขมัน LDL และไตรกลีเซอไรด์ และยังสามารถป้องกันการออกซิไดซ์ของไขมัน LDL ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด และชาขาวสมุนไพร “One Star” ยังมีส่วนช่วยป้องกันการเกาะกันของเกร็ดเลือดได้อีกด้วย ซึ่งการเกาะกันของเกร็ดเลือดเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นเลือดหัวใจอุดตันเฉียบ พลัน จนเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายในที่สุด
         โรคไต
    ชาขาวสมุนไพร “One Star” มีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ และช่วยล้างหลอดไต ซึ่งทำให้หลอดไตขยายกว้างขึ้นจึงสามารถลดอาการปวด
    ของท่อไตและสามารถขับนิ่วก้อนเล็ก ๆ ออกมาได้
         โรคอ้วน
    สารโพลีฟีนอลในชาขาว มีส่วนช่วยให้กระบวนการเผาผลาญไขมันทำงานได้ดีขึ้น จึงสามารถช่วยควบคุมและป้องกันโรคอ้วนได้ (ทั้งนี้การเผาผลาญขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย)
         โรคเก๊า
    ร้อยละ 90 ของผู้ป่วยโรคเก๊าเกิดจากการที่กรดยูริคถูกสร้างขึ้นแต่ไตทำหน้าที่ขับออกมาได้ช้าหรือน้อย เมื่อดื่มชาขาวไวท์เนเจอร์จะช่วยล้างหลอดไต ทำให้ไตทำงานได้ดีขึ้นซึ่งเป็นการลดต้นเหตุของปัญหาที่จะเกิดการสะสมกรดยูริคในเลือด ซึ่งหากทิ้งไว้นานจะตกตะกอนอยู่บริเวณรอบ ๆ ข้อ ทำให้เกิดการอักเสบได้
         โรคมะเร็ง
    ชาขาวมีสารแคททิชิน และฟลาโวนอย โดยเฉพาะสารที่ชื่อ ECGC สามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีมาก ซึ่งอนุมูลอิสระเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
  • ดื่มชาขาวสมุนไพร “One Star” มีผลข้างเคียงอะไรไหม
         ชาขาวสมุนไพร “One Star” ประกอบด้วยส่วนผสมของสมุนไพร ชาขาว ใบเตย ใบหม่อน เจียวกู่หลาน ซึ่ง ปกติจะมีน้อยมากที่ดื่มแล้ว มีผลข้างเคียง เช่น มีผื่นขึ้น คัน ซึ่ง สันนิษฐานได้ว่าอาจแพ้สมุนไพรบางตัวที่เป็นส่วนประกอบ ซึ่งปกติคนเอเชียจะไม่มีอาการแพ้สมุนไพรเหล่านี้ แต่..สภาพร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งบางคนอาจจะแพ้สมุนไพรบางชนิดแบบไม่รู้ตัว และอาการบางอย่าง อาจจะเกิดจากการดื่มชาไปแล้วชากำลังปรับสมดุลของร่างกายอยู่ก็เป็นได้ หากดื่มชาแล้วมีอาการผิดปกติจึงให้สันนิษฐานได้ว่าท่านอาจจะแพ้สมุนไพร หรือ ร่างกายกำลังปรับสมดุลหรือ Detoxของเสีย อยู่ ซึ่งหากลองดืมสัก 1 อาทิตย์ อาการไม่ดีขึ้นให้อยุดดิ่มชา ฯ และสังเกตอาการหากไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาอาการ แพ้คะ
  • ดื่มชาได้วันละกี่ซองและเวลาไหน
    ผู้ที่สุขภาพแข็งแรงปกดี แนะนำให้ดื่มอย่างน้อยวันละ 1 ซองหรือมากกว่าได้คะ
    สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเส้นเลือด ให้ดื่มวันอย่างน้อยวันละ 2 ซองได้เลยค่ะ โดยเติมน้ำร้อนดื่มได้เรื่อย ๆ หลังอาหาร เช้า และเย็น เมื่อดื่ม 1 เดือน ช่วยลดไตรกลีเซอรไรด์ เมื่อดื่ม 3 สัปดาห์ตรวจเลือดจะพบว่าระดับน้ำตาลจะสามารถควบคุมได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อดื่ม 2 สัปดาห์ จะสามารถช่วยควบคุมความดัน
  • ไม่ป่วยเป็นเบาหวานหรือโรคความดันสูงดื่มได้หรือไม่คะ
    ได้คะ เพราะชาขาวผสมสมุนไพรได้คัดสรรสูตรเฉพาะเพื่อการปรับสมดุลของร่างกายให้เป็นปกติจึงสามารถดื่มเพื่อรักษาสุขภาพและเพื่อช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมค่ะ
    "ชา" จัดอยู่ในจำพวกอาหารไม่ใช่ยา หากท่านเจ็บป่วยควรเข้าตรวจรักษากับแพทย์ผู้เชียวชาญ การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข และจะดีแค่ไหนหากท่านใส่ใจในสุขภาพ รับปรทานอาหารให้ครบห้าหมู่แต่เพียงพอดีไม่มากหรือน้อยเกินไป หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ มองโลกในแง่ดีรู้จักผ่อนคลายความเครียด...
    โรงพยาลาบและหมอที่ดีที่สุดคือร่างกายของเราเอง ปรับสมดุลของความคิดและการกระทำ เลือกสรรแต่สิ่งที่ดีให้กับตัวท่านเอง

    สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าาย ติดต่อบริษัท วันสตาร์เทรดดิ้ง จำกัด
    Onestartrading1@gmail.com
    +66815669952